ผู้ว่าการ กกท. และ อดีตประธาน กมธ. การกีฬา ประสานเสียง วรวีร์ มะกูดี ขาดคุณสมบัติลงเลือกตั้งนายกสมาคมฯ

เว็บไซต์ mthai รายงานว่า สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ให้ความเห็นกรณี ฟีฟ่า สั่งห้าม วรวีร์ มะกูดี ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมฟุตบอลในทุกระดับ เป็นเวลา 90 วัน ทำให้ขาดคุณสมบัติในการลงสมัครเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

โดย สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ วาระใหม่ วันเสาร์ 17 ตุลาคม 2558 ที่จะถึงนี้ ยังต้องดำเนินต่อไปตามห้วงเวลา ส่วนในกรณี วรวีร์ มะกูดี ในความเห็นของตนเองนั้น มองว่าขาดคุณสมบัติการลงสมัครแล้ว เนื่องจากคำสั่งของฟีฟ่าที่ออกมามีผลบังคับใช้ทันที ดังนั้นหาก วรวีร์ มะกูดี ต้องการจะลงสมัครต่อ จะต้องรีบดำเนินการอุทธรณ์ให้ทันก่อนวันเลือกตั้ง

นอกจากนี้ ผู้ว่าการ กกท. ยังให้ความเห็นว่า หาก วรวีร์ มะกูดี ยังเดินหน้าลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมตามเดิม อาจจะไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย เพราะฟีฟ่าอาจลงโทษมาที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เนื่องจากขัดคำสั่งดังกล่าว

ทั้งนี้เว็บไซต์ goal รายงานเพิ่มเติมว่า สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. ให้ความเห็นกรณีหากหากถูกฟีฟ่าแบนสมาคม หรือประเทศสมาชิก นั้นจะรวมไปถึงโครงการความช่วยเหลือทุกด้านจากฟีฟ่า (โครงการพัฒนา การอบรม และเงินสนับสนุน) และห้ามประเทศสมาชิกอื่นๆ ติดต่อหรือทำกิจกรรมใดๆ กับสมาชิกที่โดนแบน รวมไปถึงยุติกิจกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลนานาชาติ เช่นทีมชาติทุกชุด ทีมสโมสรที่อยู่ในการแข่งขันระหว่างประเทศ การแข่งขันกระชับมิตร เจ้าหน้าที่ หรือ กรรมการจากประเทศสมาชิกจะโดนระวับการทำหน้าที่ ไปด้วย

ด้านเว็บไซต์ MGRsport รายงานข่าว นฤมล ศิริวัฒน์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการ การกีฬา วุฒิสภา แสดงความเห็น ตั้งข้อสังเกตว่าการที่ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถูกฟีฟ่า แบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมฟุตบอล 90 วัน ทำให้ขาดคุณสมบัติการลงสมัครเลือกตั้ง

นฤมล ศิริวัฒน์ กล่าวว่า คำสั่งของฟีฟ่านั้นชัดเจนว่าห้าม วรวีร์ มะกูดี ยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอล ดังนั้น หากยังมาเกี่ยวข้อง ก็สุ่มเสียงที่จะทำให้ประเทศไทยโดนแบนจากฟีฟ่าได้ แต่การเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ก็ต้องดำเนินต่อไปตามกฎหมาย

อดีตประธานกรรมาธิการ การกีฬา วุฒิสภา กล่าวเสริมว่า ตอนนี้ฟันธงเลยว่า วรวีร์ มะกูดี ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครแล้ว เพราะโดนฟีฟ่าปฏิเสธไม่ให้ทำหน้าที่ ที่สำคัญ ยังถูกแบนเรื่องเกี่ยวกับศีลธรรมและจรรยาบรรณ ซึ่งถึอเป็นเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศไทย ทั้งนี้อยากฝากให้การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. วิเคราะห์ถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง