ช่วงบ่าย วันพุธ 18 พฤศจิกายน 2558 แบงค็อก ยูไนเต็ด ร่วมกับ 4 ทีมโซนท้ายตาราง แถลงข่าวตอบโต้ ผลการตัดสินของ ไทยพรีเมียร์ลีก กรณีปรับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ให้แพ้แก่ บีอีซี เทโรศาสน 3-0 เหตุเพราะส่งนักเตะลงสนามผิดกฎเกินโควต้า
ทั้งนี้ 5 สโมสรฟุตบอลที่ร่วมแถลงข่าวได้แก่ แบงค็อก ยูไนเต็ด การท่าเรือ เอฟซี ชัยนาท ฮอร์นบิล ราชนาวี และ สระบุรี เอฟซี
เหตุการณ์เกิดขึ้น โดย บีอีซี เทโรศาสน เป็นฝ่ายยื่นคำร้องต่อ ไทยพรีเมียร์ลีก กล่าวหาว่า แบงค็อก ยูไนเต็ด ส่งผู้เล่นผิดกฎเกินโควต้า โดย แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้ส่งนักเตะต่างชาติ 3+1 คน ได้แก่ ดราแกน บอสโควิช, คาลิฟา ซิสเซ่, เลอันโดร ตาตู้ และ เจย์ซี จอห์น อ็อควุนวานเน (โควต้าเอเชีย) และต่อมา คาลิฟา ซิสเซ่ ได้ถูกใบเหลือง-แดง ไล่ออกจากสนามในนาที 56 และในช่วงท้ายเกม แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้เปลี่ยนเอา โรแม็ง กัสมี่ ซึ่งเป็นโควต้าต่างชาติ ลงมาแทน เจย์ซี จอห์น อ็อควุนวานเน ที่เป็นโควต้าเอเชีย ทำให้มีนักเตะต่างชาติ 3 คนเท่าเดิม
โดยไทยพรีเมียร์ลีก ตัดสินว่า แบงค็อก ยูไนเต็ด ผิดกฎระเบียบการแข่งขัน ไทยพรีเมียร์ลีก 2015 โดยหลังจากผู้เล่นต่างชาติโดนใบแดงแล้ว โควต้านักเตะในสนามของ แบงค็อก ยูไนเต็ด จะต้องเหลือ โควต้าต่างชาติ 2 คน รวมกับ โควต้าเอเชีย 1 คน เท่านั้น และตัดสินปรับแพ้ให้กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด และให้ บีอีซี เทโรศาสน ชนะไปด้วยสกอร์ 3-0
มาโน่ โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอน แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวในการแถลงข่าวว่า ยืนยันว่าเข้าใจกฎระเบียบของไทยพรีเมียร์ลีกถูกต้อง ที่สามารถลงทะเบียนนักกีฬาต่างชาติได้ 5 คน และสามารถลงสนามได้ด้วยโควต้า 3+1(เอเชีย) ในกฎเขียนไว้ชัดเจนว่าจำนวนไม่ใช่สัดส่วน ซึ่งตนเองก็เข้าใจว่าทำถูกต้อง และจะทำผิดกฎก็ต่อเมื่อเอานักเตะไทยออก และส่งผู้เล่นต่างชาติเข้ามาแทน แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น
ด้าน ขจร เจียรวนนท์ ตอบคำถามสื่อมวลชนว่าหากผลการอุทธรณ์ต่อไทยพรีเมียร์ลีก ไม่เป็นผล จะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครองต่อไป