หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันศุกร์ 25 ธันวาคม 2558 รายงานว่า ในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี 24 ธันวาคม 2558 พลเรือเอก สุรวุฒิ มหารมณ์ ประธานกรรมการกลาง เป็นประธานการประชุม เปิดเผยข้อสรุปเรื่องกำหนดการและรูปแบบวิธีการเลือกตั้ง ตัวแทน 30 เสียง จากไทยลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2
โดย สุรวุฒ มหารมณ์ ประธานคณะกรรมการกลาง เปิดเผยว่า ตลอดเวลาดำเนินงาน 2 เดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการไม่ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาใดๆ ซึ่งจากกระแสคัดค้าน 30 เสียงจาก ไทยลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ก็ไม่เคยบอกว่า สโมสรเป็นฝ่ายผิด เพียงแต่ข้อกฎหมายเกิดข้อขัดแย้ง โดย สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) รับรองข้อบังคับสมาคมฟุตบอลฯ พ.ศ. 2558 ทำให้ 30 เสียงเดิม ที่มาจากข้อบังคับสมาคมฟุตบอลฯ พ.ศ. 2556 ต้องสิ้นสภาพไปด้วย จึงจำเป็นต้องคัดเลือกใหม่ ซึ่งฟีฟ่า ก็ตอบมาว่าให้เดินหน้าต่อไป และสอดคล้องกับคณะกรรมการฉุกเฉินของฟีฟ่า
ประธานคณะกรรมการกลาง กล่าวว่า หากจะฝืนใช้ 30 เสียงเดิม ก็อาจเกิดสุญญากาศได้ เพราะจะฟ้องร้องกัน และมีผู้เกี่ยวข้องนับหมื่นคนเดือนร้อน โดยยืนยันว่าจะจัดเลือก 30 เสียงใหม่ ในวันพฤหัสบดี 7 มกราคม 2559 ที่ชั้น 25 ตึกการกีฬาแห่งประเทศไทย และใช้วิธีลงคะแนนลับ โดยเตรียมจัดส่งหนังสือเชิญประชุมให้กับ 83 ทีม จากไทยลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ต่อไป
ด้าน นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า หากคณะกรรมการกลางยืนยันจะเลือกตั้ง 30 เสียงจาก ไทยลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ขึ้นใหม่ ก็จะดำเนินการทำเรื่องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองให้คุ้มครองสิทธิของ 30 เสียงเดิม ที่ผ่านกระบวนการเลือกตั้งมาอย่างถูกต้องตามข้อบังคับ และขั้นตอนของทางฟีฟ่า ทุกประการ เพราะถือว่ากรรมการกลางชุดนี้ใช้อำนาจโดยมิชอบ ทำให้สโมสรที่เลือกกันมาแล้ว ต้องเสียสิทธิโดยไม่ได้ชี้แจงเหตุอันควร