ชาญวิทย์ ผลชีวิน หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยนโยบาย ในการลงชิงตำแหน่งฯ ในครั้งนี้ โดยหลังจากประชุมทีมงาน มุ่งเน้นแก้ปัญหา ในหลายด้าน ได้แก่
ไม่หาเสียงด้วยความคัดแย้ง ไม่เข้าไปเกี่ยวกับกับการเลือกตั้งแทน 30 เสียง ไทยลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2
โดย ชาญวิทย์ ผลชีวิน เปิดเผยว่าช่วงเวลาที่เหลือมีความสำคัญมาก เหมือนฟุตบอลได้มีการต่อเวลาไปอีก 2-3 นาที โดยตนเองจะไม่หาเสียบด้วยความขัดแย้ง รวมทั้งจะไม่กล่าวถึงข้อเสียของบุคคลอื่น เนื่องจากต้องการชูนโยบายในการทำฟุตบอลไทยร่วมกัน
ตนเองจะประสานไปยัง ไทยลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ทั้ง 6 โซน เพื่อเดินทางไปพูดคุยนโยบายให้ครบทุกภูมิภาค ทั้งนี้จะไม่มีการบังคับสโมสรใดๆ อย่างเด็ดขาด แต่จะขอความร่วมมือจากทุกสโมสร ให้ช่วยกันเสนอแนะข้อต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุง
สำหรับข้อกังวลเรื่องการเลือกตัวแทน 30 เสียงจาก ไทยลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ชาญวิทย์ ผลชีวิน กล่าวว่า ตนเองจะไม่ขอเข้าไปเกี่ยวข้องหรือสร้างความขัดแย้งเด็ดขาด เนื่องจากจะเลือกใหม่หรือไม่ ขอให้เป็นไปตามกติกาตนเองรับได้ทั้งหมด
แก้ไขปัญหาความเชื่อถือในตัวผู้ตัดสิน และ การเพิ่มมูลค่า ฟุตบอลลีกอาชีพ
ชาญวิทย์ ผลชีวิน กล่าวว่า ต้องรีบดำเนินการแก้ไขเรื่องของผู้ตัดสินเป็นลำดับแรก เนื่องจากเป็นปัญหาที่สั่งสมกันมานานมาก และทีมงานทั้งหมดจะต้องเข้าไปแก้ไขโดยเร็ว ทั้งนี้ สิ่งที่ ชาญวิทย์ ผลชีวิน ต้องการทำมากที่สุด ได้แก่ การเพิ่มมูลค่าของฟุตบอลลีกอาชีพ ให้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยกันว่าจะมีจำนวนทีมเท่าเดิม 18 ทีม หรือจะเพิ่มเป็น 20 ทีม ซึ่งจะต้องพิจารณาข้อดีและข้อเสียในจุดนี้ด้วย
สร้างฟุตบอลลีกอาชีพ ระดับเยาวชน
ชาญวิทย์ ผลชีวิต เปิดเผยว่า หากตนเองได้มีโอกาศเข้ามาทำงานเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะเร่งผลักดันให้เกิด ฟุตบอลลีกอาชีพ ระดับเยาวชน โดยเฉพาะอายุ 19 ปี ซึ่งถือเป็นหัวใจของการพัฒนาฟุตบอลระดับประเทศ เหมือนในประเทศแถบยุโรป อเมริกา และลีกแนวหน้าของทวีปเอเชีย อีกทั้ง เอเอฟซี ได้กำหนดข้อบังคับแล้วว่า แต่ละสโมสรจะต้องมีทีมฟุตบอลเยาวชน อายุไม่เกิน 19 ปี อีกด้วย จึงต้องดำเนินการเป็นอย่างแรก