สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ประกาศยกเลิกสัญญาดูแลสิทธิประโยชน์ บริษัท สยามสปอร์ต

การประชุมสภากรรมการ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เมื่อวันจันทร์ 7 มีนาคม 2559 ภายหลังการประชุม สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เปิดเผยมติที่ประชุมดังนี้

ยกเลิกสัญญามอบสิทธิการบริหารสิทธิประโยชน์ ให้กับ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เนื่องจากพิจารณาแล้ว เห็นว่าเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เป็นลักษณะของสัญญาแบบผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีการกำหนดค่าตอบแทนให้แก่สมาคม ไม่มีการกำหนดวงเงิน ระยะเวลาในการส่งมอบเงินให้แก่สมาคม ส่งผลให้สมาคมไม่มีอิสระในการบริหารงาน และไม่สามารถวางแผนงบประมาณดำเนินงานได้ด้วยตนเอง

สำหรับการยกเลิกสัญญาครั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะตัดขาดความร่วมมือกับบริษัทฯ ซึ่งให้การสนับสนุน และส่งเสริมกีฬาฟุตบอลมาโดยตลอด แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไขสัญญาให้มีความเป็นธรรม และกำหนดหน้าที่ของคู่สัญญา อย่างชัดเจน และสนามคม พร้อมที่จะเปิดรับข้อเสนอของบริษัทฯ ที่จะเข้ามาร่วงงานกับสมาคม อย่างเท่าเทียมกันทุกๆ บริษัทต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ ผู้แทนของสมาคมฯ ได้เจรจากับบริษัทฯ มาโดยตลอด แต่เห็นว่าวิธีการนี้น่าจะนำไปสู่การปรับปรุงได้ดีที่สุด และเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ให้สัญญาทุกฉบับที่มีอายุสัญญาผูกพันเกินกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีระยะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เพื่อนำสู่การปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไขสัญญาให้มีความเป็นธรรม และเป็นประโยชน์แก่คู่สัญญา ทั้งสองฝ่ายสูงสุด

ทั้งนี้ เนื่องจาก จนถึงขณะนี้ สภากรรมการ (ที่ได้รับการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา) ยังไม่ได้รับสัญญาต้นฉบับจากผู้บริหารชุดเดิม มีเพียงสัญญาคู่ฉบับของคู่สัญญาเท่านั้น จึงไม่อาจจะพิจารณาได้ว่า สัญญาธุรกรรม นิติกรรมที่คู่สัญญานำมาแสดง ถูกต้องตรงกับสัญญาต้นฉบับหรือไม่ แต่สมาคมจะพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่คู่สัญญาทุกราย และยินดีที่จะร่วมมือกับคู่สัญญาเดิมเพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลไทยตามเจตนารมณ์ ของท่านต่อไป

สำหรับการกำหนดหลักการบริษรสิทธิประโยชน์ของสมาคมฯ ใหม่ จะไม่มีการมอบสิทธิให้ผู้ใดรับสิทธิไปบริหารแทนสมาคมอีกต่อไป แต่จะใช้วิธีจัดจ้าง Agency มาทำหน้าที่จัดหาสิทธิประโยชน์ ตามนโยบายและแนวทางที่สมาคมกำหนด ทั้งนี้ นายกสมาคม จะแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาคัดเลือก Agency ด้วยการประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอแผนงาน เงื่อนไข เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกตามหลักธรรมาภิบาล และคำนึงถึงผลตอบแทนที่สมาคม และ สมาชิกจะได้รับเป็นสำคัญ