วันศุกร์ 22 เมษายน 2559 ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ รัชดา สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ แถลงข่าวการคัดเลือก ตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์รายใหม่ ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ บริษัท พรีเมียร์ ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ พีแอลที ระยะเวลา 4 ปี ระหว่างฤดูกาล 2017 - 2020
สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวว่า มี 3 บริษัท เสนอตัวเข้าบริหารสิทธิประโยชน์ ประกอบด้วย บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีพ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) ก่อนที่สุดท้าย คณะกรรมการลงมติเลือก บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลสิทธิประโยชน์ เนื่องจากมีข้อเสนอที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด
บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) เสนอรายได้ ขั้นต่ำให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตลอดระยะเวลา 4 ปี เป็นไงไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท (ปีละ 250 ล้านบาท) โดยมีหนังสือค้ำประกันจากธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมกันนี้ ยังสนับสนุนการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ ในช่องทางต่างๆ ให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ตลอดระยะเวลา 4 ปี ไม่น้อยกว่า 800 ล้านบาท (ปีละ 200 ล้านบาท) สรุป 4 ปี สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะมีรายได้จาก บริษัท แพลน บี มีเดีย (จำกัด) ไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาท (ปีละ 250 ล้านบาท)
ขณะที่ ผู้ที่ได้บริหารสิทธิประโยชน์ของ บริษัท พรีเมียร์ ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นของ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) เช่นกัน โดย เสนอรายได้ ให้กับทาง พีแอลที ตลอด 4 ปี ไม่ตำกว่า 1,040 ล้านบาท (ปีละ 260 ล้านบาท) พร้อมสื่อประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ ไม่ตำกว่า 400 ล้านบาท (ปีละ 100 ล้านบาท)
ทั้งนี้ รายได้จากการบริหารสิทธิประโยชน์ ไม่ครอบคลุมถึงสิทธิการถ่ายทอดสด และเทปการแข่งขัน ฟุตบอลไทยลีก 2016 และ ไทยลีกดิวิชั่น 1 ซึ่ง ทรูวิชั่นส์ ได้ทำสัญญาไว้ที่จำนวนเงิน 1,000 ล้านบาท ต่อปี
สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวในตอนท้ายว่า ในปี 2017 สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ บริษัท พรีเมียร์ ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด จะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 2,440 ล้านบาท