วันจันทร์ 19 ธันวาคม 2559 สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า จากกรณี ชัยนาท ฮอร์นบิล และ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ได้ยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อ กกท. เนื่องจากได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ในการสั่งยุติการแข่งขัน ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2016 และ ให้ทั้ง 2 สโมสรตกชั้น ไปแข่งขัน ไทยลีก 2 (ไทยลีก ดิวิชั่น 1 เดิม) ในฤดูกาล 2017 ทั้งที่เหลือการแข่งขันอีก 3 นัด
ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่มี อดุลยเดช อินทะพงษ์ เป็นประธานคณะกรรมการฯ ได้เชิญ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ รวมถึงสโมสร ชัยนาท ฮอร์นบิล และ สโมสร อาร์มี่ ยูไนเต็ด เข้าชี้แจงร่วมกันเพื่อพิจารณาหาทางออก เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้แทนแต่ละฝ่าย มีความเห็นชอบร่วมกัน ดังนี้
1. เสนอให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เยียวยาความเสียหายของทั้งสองสโมสรตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เห็นสมควร หรือจะพิจารณาตามที่สโมสรเสนอ
2. ให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พิจารณาดำเนินการตามข้อบังคับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ให้มีการจัดประชุมใหญ่พิเศษเพื่อรับฟังรายละเอียดและพิจารณาข้อเสนอของทั้ง 2 สโมสร และให้มีการลงมติในที่ประชุมใหญ่พิเศษภายในเดือนธันวาคม 2559
3. เมื่อพิจารณาแล้วให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แจ้งผลการพิจารณาให้คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ทราบเมื่อได้มีการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วตามที่คณะกรรมการฯ เสนอ
4. ในการดำเนินงานเรื่องต่างๆ ให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยึดถือข้อบังคับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 เป็นแนวทางปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 มาตรา 34 กำหนดว่า นักกีฬาอาชีพ บุคลากรกีฬาอาชีพ สโมสรกีฬาอาชีพ หรือสมาคมกีฬาอาชีพ ซึ่งไม่พอใจคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกีฬาอาชีพภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำวินิจฉัยดังกล่าว
ซึ่งคำวินิจฉัยดังกล่าวข้างต้น คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ ซึ่งมี อดุลยเดช อินทะพงษ์ เป็นประธานคณะกรรมการฯ ได้มีหนังสือที่ กก 5110/13194 ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2559 เรื่องคำวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์สโมสรฟุตบอลอาร์มี่ ยูไนเต็ด และสโมสรฟุตบอลชัยนาท ฮอร์นบิล ถึงนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อรับทราบและให้พิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว และขณะนี้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กำลังพิจารณาอยู่
ที่มา - กองประชาสัมพันธ์ กกท.